วันอังคารที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สาระน่ารู้




              "มะเขือเทศ"  มีวิตามินเอและซี ที่มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง และช่วยเสริมสร้างความสดใสให้แก่ผิวพรรณ และยังช่วยให้ระบบการหมุนเวียนเลือดดีขึ้น

            "เสาวรส"      ผลเสาวรส มีสรรพคุณช่วยลดความดันโลหิต ลดไขมันในเส้นเลือด เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย คลายร้อน และป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี

           "ลิ้นจี่"          มีวิตามินบี1 และบี2 และวิตามินซี มีสรรพคุณช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ป้องกันไขมันอุดตันในเส้นเลือด ช่วยย่อยอาหาร ช่วยบำรุงม้าม บำรุงอวัยวะภายใน บำรุงระบบประสาท และยังแก้อาการท้องเดินได้อีกด้วย

         "ฝรั่ง"           มีวิตามินซี ที่มีสรรพคุณชะลอการลุกลามของมะเร็ง ช่วยสร้างและบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันทำให้แผลหายเร็ว ช่วยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาว ช่วยลดสารพิษในร่างกาย หากรับประทานเป็นประจำจะทำให้ผิวพรรณสดใส

           "บ๊วย"          มีสรรพคุณช่วยคลายร้อน เพิ่มกำลัง บรรเทาอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย และช่วยเสริมระบบการย่อยอาหาร ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย หากดื่มน้ำบ้วยเป็นประจำ ยังจะช่วยป้องกันโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้อีกด้วย

           "เห็ดหลินจือ" มีสรรพคุณช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคมะเร็ง บำรุงตับ บำรุงสมองและระบบประสาท ทำให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลอดเลือดแข็งตัว เส้นเลือดอุดตัน น้ำตาลในเลือด คอเลสเตอรอลและความดันโลหิตสูง

             "น้ำผึ้ง"         เป็นยาอายุวัฒนะและชะลอความแก่ เป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายให้แข็งแรง สดชื่นอยู่เสมอ ช่วยเสริมสร้างวิตามิน และแร่ธาตุที่ร่างกายขาดไป ช่วยให้ระบบการย่อยและขับถ่ายดีขึ้น
                "ตะไคร้"       มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงสายตา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัส ที่ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด ลดพิษของสารแปลกปลอมในร่างกายและยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
                "ขิง"            มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น รักษาไข้หวัด รักษาอาการไอ ขับเสมหะ และยังช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้ออีกด้วย รักษาอาการปวดประจำเดือนในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
                "ใบเตย"       มีสรรพคุณช่วยลดอาการกระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ รู้สึกสดชื่น และยังเป็นสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ในผู้ป่วยโรคเบาหวานได้
                "ถั่วเหลือง"    มีสรรพคุณในการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ ช่วยลดและป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ช่วยป้องกันและแก้ไขโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากเป็นอาหารที่ไม่มีโคเลสเตอรอล และมีใยอาหารสูง

                "ลำไย"  เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณช่วยในการบำรุงหัวใจ ระบบประสาท และระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และใช้บำรุงร่างกายของสตรีภายหลังจากการคลอดบุตร 
             
                "มังคุด"        สาร Xanthone ในเปลือกมังคุด ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งมีผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่าง ๆ นอกจากนี้ในเปลือกมังคุดยังมีสาร แทนนิน ที่มีคุณสมบัติช่วยในการสมานแผล และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้อีกด้วย

                "มะม่วง"      ช่วยละลายเสมหะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และยังช่วยให้เลือดลมและประจำเดือนของสตรีเป็นปกติ หากรับประทานมะม่วงสดเป็นประจำแล้วก็จะช่วยทำให้อาการไอ หอบ มีเสมหะ หรือมีเลือดออกตามไรฟันบรรเทาลงไปได้
                "มะละกอ"    มีสรรพคุณในการต่อต้านการเกิดของเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบำรุงอวัยวะภายในต่าง ๆ ของมนุษย์ เช่น ม้าม และกระเพาะอาหาร ช่วยในการย่อยอาหาร และยังช่วยทำให้ผิวพรรณดี อีกด้วย

                "สตรอเบอร์รี่"                มีวิตามิน ซี อยู่เป็นจำนวนมาก มีสรรพคุณที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็ง โรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหวัดและโรคภูมิแพ้ ช่วยทำให้ระบบการดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น ลดอาการท้องผูก ช่วยให้เจริญอาหาร
                "สับปะรด"    มีปริมาณของวิตามิน เกลือแร่ และเส้นใยไฟเบอร์ที่มีอยู่มากมาย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร เสริมสร้างการดูดซึมอาหารของร่างกาย การลดความร้อนของร่างกายและยังช่วยแก้กระหาย หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำแล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงของการเป็นโรคไตอักเสบ และโรคความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย



                
               
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น